หลักการเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในการตกแต่งบ้าน
การตกแต่งภายในไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำ บิ้วอินบ้าน หรือ บิ้วอินคอนโด เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Loose Furniture) ที่สามารถขยับหรือเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการจัดวาง หรือแม้แต่ย้ายที่อยู่ในอนาคต การเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้เหมาะสมจะช่วยทำให้บรรยากาศของบ้านหรือคอนโดสวยงาม ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน
1. เลือกตามขนาดและสัดส่วนของห้อง
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวควรมีขนาดพอดีกับพื้นที่ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ตัวอย่างเช่น ในคอนโดที่พื้นที่จำกัด การเลือกโซฟาขนาดกะทัดรัด โต๊ะกลางที่มีฟังก์ชันเก็บของ จะช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น ต่างจากงานบิ้วอินบ้านที่ออกแบบพอดีกับผนัง การเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจึงควรเน้นความสมดุลของพื้นที่เป็นหลัก
2. เน้นฟังก์ชันการใช้งาน
เฟอร์นิเจอร์ที่ดีควรตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น เตียงนอนที่มีลิ้นชักเก็บของ โต๊ะทำงานที่มีช่องเสียบปลั๊ก หรือชั้นวางที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งแม้จะไม่ใช่งานบิ้วอิน แต่ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
3. เลือกวัสดุและคุณภาพ
วัสดุเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความทนทาน ไม่ว่าจะเป็นไม้จริง ไม้ MDF หรือเหล็ก ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและสไตล์การตกแต่งภายใน เช่น หากบ้านหรือคอนโดตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่เป็นโลหะผสมไม้จะช่วยเสริมบรรยากาศได้ดี
4. ดีไซน์ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวควรไปในทิศทางเดียวกันกับสไตล์ห้อง เช่น หากบ้านเลือกงานบิ้วอินบ้านที่เรียบหรู เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็ควรเน้นโทนสีและดีไซน์ที่เข้ากัน เพื่อไม่ให้ภาพรวมดูขัดแย้งกัน
5. ความยืดหยุ่นและการปรับเปลี่ยน
จุดเด่นของเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวคือการย้ายหรือปรับเปลี่ยนการจัดวางได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบแต่งบ้านบ่อย หรืออยากเพิ่มพื้นที่การใช้งาน เช่น ย้ายโต๊ะกินข้าวไปใกล้หน้าต่าง หรือปรับมุมโซฟาเพื่อรับแขก
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในการ ตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือคอนโด หากเลือกอย่างเหมาะสมก็สามารถทำงานเสริมกับงาน บิ้วอินบ้าน บิ้วอินคอนโด หรือบิ้วอินทาวน์โฮม ได้เป็นอย่างดี ทั้งเพิ่มความสวยงาม ความลงตัว และตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน